TH I EN
โครงการประชุมสัมมนาพัฒนาบุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระบัญชาโปรดให้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาพัฒนาบุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ในวันพุธที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ หอประชุมพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โอกาสนี้ได้เชิญพระโอวาทไปอ่านในพิธีเปิดประชุม ดังต่อไปนี้

"ขออนุโมทนาสาธุการที่ท่านทั้งหลาย มาร่วมประชุมบุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยสามัคคีธรรม และอปริหานิยธรรมในวันนี้ ขออนุโมทนาท่านผู้จัดโครงการและท่านผู้ร่วมโครงการทุกรูปทุกคน ซึ่งเป็นที่คาดหมายได้ว่าจะเป็นผู้ยังประโยชน์แก่คณะสงฆ์อย่างยิ่ง ขออนุโมทนาบุญ ในการที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและบุคลากรผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ทำหน้าที่เกื้อกูลภารกิจนี้มาเป็นอย่างดี

ความรู้ชัด รู้ตรง และรู้จริงแท้ เป็นรากฐานของการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา แต่ปัญหาใหญ่ของงานเผยแผ่ทุกวันนี้คือ ผู้ไม่รู้ย่อมไม่รู้ตัวว่าตัวไม่รู้ หรือรู้ผิดๆ แต่มั่นใจว่าตนถูก ตนเหนือกว่าใครๆ ยึดมั่นถือมั่นในโมหาคติ คืออคติเพราะความหลงของตนๆ เป็นประมาณ เพราะฉะนั้น การศึกษาค้นคว้าให้ถ่องแท้ตามกระบวนการศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรม แผนกบาลี และแผนกสามัญ ซึ่งคณะสงฆ์ทุกยุคทุกสมัย นับแต่ครั้งบรรพกาล สืบมาถึงบูรพาจารย์คณะสงฆ์ไทย ได้สู้อุตสาหะสร้างสรรค์หลักสูตรและวิธีการไว้จึงเป็นสิ่งจำเป็นสูงสุด สำหรับการเผยแผ่อย่างมีหลัก และหลักที่ว่านั้นคือพระไตรปิฎกคัมภีร์อรรถกถา ฎีกา และปกรณ์ต่างๆ อันมีแบบแผนอ้างอิงได้ นำไปสู่การวิจัยอย่างลึกซึ้ง กระทั่งบังเกิดมวลความรู้ในตน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิมากพอที่จะทำหน้าที่เผยแผ่ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ไม่ก่อให้เกิดสัทธรรมปฏิรูปซึ่งเป็นบาปมหันต์ และเป็นการบั่นทอนอายุพระศาสนาโดยตรง

ขอฝากหลักการให้ท่าน จงตระหนักมั่นอยู่เสมอว่า นักเผยแผ่ต้องศึกษาค้นคว้าและทำความเข้าใจในพระธรรมวินัยให้เชี่ยวชาญ มุ่งมั่นดำเนินงานของหมู่คณะให้ดำรงอยู่ในกระบวนการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมตามพุทธวิธี และตามวิถีแห่งบูรพาจารย์คณะสงฆ์ไทย อย่าได้อวดอ้างสั่งสอนไป นอกแบบอย่างหนทางของพระบรมครู ตลอดจนอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ท่านอบรมสั่งสอนสืบทอดมา อย่าเผลอใช้อัตโนมติของตนๆ หรือเอาอกเอาใจกระแสแห่งลาภสักการะ ที่จรมาแล้วจรไปอย่างชั่วครู่ชั่วคราว

ขอให้รักษาความยุติธรรม โดยการยุติปัญหาทุกอย่างด้วยธรรม ซึ่ง "ธรรมะ" ที่ว่านั้น ต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอนแห่งการศึกษาพระปริยัติธรรมอันมีระบบระเบียบอย่าริเรียนลัดตัดตอน อย่าเป็นนักโฆษณาโดยถือทิฐิมานะตนเป็นใหญ่ ขอให้พากเพียรเผยแผ่ไปตามหลักอนุปุพพิกถาสอดส่องพื้นฐานความรู้และอัธยาศัยของประชุมชนก่อนเผยแผ่ เพื่อผลแห่งการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามที่ท่านทั้งหลายได้อุตส่าห์อบรมไว้ จักได้บังเกิดขึ้นจริง ตามศักยภาพของผู้เล่าเรียนศึกษา และตามกำลังความสามารถของนักเผยแผ่ผู้มีกุศลเจตนาแน่วแน่ต่อการธำรงรักษาพระสัทธรรม

ได้เวลาอันสมควรแล้ว ขอเปิดการประชุมประชุมบุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ณ บัดนี้ ขออำนวยพรให้การประชุมบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และขอให้ทุกท่านจงเจริญงอกงามในธรรมะของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งๆ ขึ้นไป เทอญ"

ในการนี้ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมในพิธี

โดยในเวลา ๐๙.๔๐ น. พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง พระพุทธศาสนากับสถาบันพระมหากษัตริย์ และในเวลา ๑๒.๓๐ น. การเสวนาเรื่อง “เครือข่ายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อเอกภาพในความหลากหลาย” ดำเนินรายการโดย พระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย

๑. พระพรหมเสนาบดี ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการการอบรมประชาชนกลาง

๒. พระพรหมวัชรวิมลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร

๓. พระธรรมรัตนาภรณ์ ประธานกรรมการโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข

๔. พระเทพปวรเมธี รองเจ้าคณะภาค ๑๕ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มจร.

๕. พระสุธีรัตนบัณฑิต คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มจร.

๖. ดร.วัชรวิชญ์ กีรติดุสิตโรจน์ รองประธานกรรมการจัดทำแผนแม่บทฯ

๗. ดร.ศุลีมาศ สุทธิสัมพัทน์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

๘. นายจาตุวัฒน์ วงษ์จีน ผู้อำนวยการกองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา

ศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดโครงการประชุมสัมมนาบุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั่วประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

๑. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีทักษะองค์ความรู้ที่จะขับเคลื่อนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

๒. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนามีความตระหนักและเข้าใจบทบาทหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามระเบียบมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พ.ศ. ๒๕๖๔

๓. เพื่อให้บุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้รับทราบและเข้าใจนโยบายด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ของคณะสงฆ์และศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติอันจักนำไปสู่การเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่มีความเป็นเอกภาพและสร้างสังคมสันติสุข

๔. เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากรการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ได้แสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมกันกำหนดแผนการดำเนินงานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เป็นรูปธรรม นำไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image

 
 
 
 

Website Policy | Privacy Policy | Security Policy | Disclaimer | ข้อกำหนดการใช้ Cookies รองรับการทำงานบน Internet Explorer v.11+, Microsoft Edge, Firefox v.47.0+, Chrome v.51+

จำนวนการเข้าชม : 29,459,243